
ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านถ้ำ
ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านถ้ำ ทางหลวงหมายเลข 1251หลักกิโลเมตรที่ 14 ถนนดอกคำใต้ – เชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
ประวัติความเป็นมา
ในปี 2524 นายอุทัย ไชยวุฒิ ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูโรงเรียนบ้านปินเหนือ อำเภอดอกคำใต้ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวยังเป็นชุมชนชนบทแต่เป็นช่วงเวลาที่มีการนำเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในการทำการเกษตรโดยในนามควายเหล็ก หรือรถไถชนิดเดินตาม เริ่มเข้ามาทดแทนเครื่องใช้ทางการเกษตรที่มีมาแต่เดิมเช่นแอก ไถไม้ เผือและอุปกรณ์เครื่องใช้พื้นบ้าน จึงมีการนำมาแลกเครื่องใช้ที่ผลิตจากเทคโนโลยี่สมัยใหม่ โดยมีการนำเครื่องใช้พื้นบ้านไปแปรรูปเป็นของตกแต่ง ปัญหาของชุมชนในการทำการเกษตรได้ผลไม่คุ้มค่า ผลผลิตตกต่ำ ปัญหาที่ตามมาไม่ว่าเรื่องตกเขียว การขายบริการของเด็กผู้หญิง ค่านิยมการส่งลูกไปทำงานต่างถิ่นเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ได้กระตุ้นให้เกิดสำนึกว่าการเป็นครูควรทำอะไรให้มากกว่าที่สอนแต่นักเรียนเพียงอย่างเดียว จึงมีการเริ่มจากการเก็บรวบรวมสะสมเครื่องใช้พื้นบ้าน และริเริ่มก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขึ้น โดยร่วมมือกับกลุ่มเพื่อนครูพัฒนา ใน4 ตำบลได้จัดทำโครงการช่วยเหลือนักเรียนและปลูกฝังให้กับเด็กและเยาวชนในนาม “เด็กรักถิ่น” ร่วมกับ NGO ต่อมาเห็นว่าอาจารย์อุทัย ไชยวุฒิสมาชิกกลุ่มได้เก็บรวบรวมโบราณวัตถุอยู่แล้ว จึงมีการสนับสนุนในการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำขึ้น ซึ่งก่อตั้งและรวบรวมเอกสาร โบราณวัตถุ เครื่องใช้พื้นบ้าน เป็นศูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน มีเนื้อที่ทั้งหมด 9 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นอาคารใช้แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่พื้นบ้าน และพิพิธภัณฑ์ที่แสดงการก่อตั้งชุมชน เครื่องใช้ โบราณวัตถุที่พบในอำเภอดอกคำใต้ ตั้งแต่ยุคหินถึงปัจจุบัน ซึ่งใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนในเขตพื้นที่ 4 ตำบล มีตำบลบ้านปิน ตำบลหนองหล่ม ตำบลคือเวียง และตำบลบ้านถ้ำ
แรงบันดาลใจ
การเปลี่ยนแปลงทางสังคม จากชุมชนชนบทที่ช่วยเหลือพึ่งพิงตัวเอง สังคมที่เอื้ออาทรมาสู่สังคมที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีที่มีการนำวิถีชีวิตแบบสังคมเมือง ในปี 2524 เป็นปีแห่งการนำเทคโนโลยีมาใช้แทนเครื่องมือการเกษตรที่ผลิตขึ้นมาเอง ค่านิยมแบบสมัยใหม่มาปลุกกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในช่วงเวลานั้น ในปี 2535 ครูในท้องถิ่นจึงมีการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือและพยุงชุมชนให้มีการปรับตัวเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ให้เกิดปัญหาให้น้อยที่สุด จึงได้มีการกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้กลับมาศึกษาเอกลักษณ์ของชุมชน เช่น ฟ้อนเล็บ ฟ้อนสาวไหม ซอจ้อย และได้เรียนรู้ประวัติของชุมชนจึงได้มีการตั้ง ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ โดยการลงทุนของอาจารย์อุทัย ไชยวุฒิในพื้นที่นาในปี 2535และได้จัดกิจกรรมให้กับเด็กเยาวชนและชุมชนใน 4 ตำบล ของอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
กิจกรรมศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ
ได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ให้กับกลุ่มและองค์กรต่างๆที่เข้ามาเยี่ยมชม จัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออก เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมให้กับนักเรียน 4 ตำบล คือตำบลบ้านปิน ตำบลหนองหล่ม ตำบลคือเวียงและตำบลบ้านถ้ำ ในอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
เป็นสถานที่ตั้งศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ในปี 2547 และมีพิธีเปิดเมื่อ วันที่ 4 มิถุนายน 2547
หน่วยงานที่สนับสนุน
- ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
- เทศบาลตำบลบ้านถ้ำ สนับสนุนงบประมาณปี 2547 จำนวน 40,000 บาท ในการจัดนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ดอกคำใต้และพิธีเปิดศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านถ้ำ จำนวน 40,000 บาท
ปัญหาและอุปสรรค
ในการดำเนินงานของศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ เป็นการบริหารงานด้วยงบประมาณของอาจารย์อุทัย ไชยวุฒิ ด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น โดยไม่เรียกเก็บค่าเข้าชมหรือค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น จึงมีผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือการจัดการบริหารของศูนย์วัฒนธรรมดังต่อไปนี้
1. ค่าใช้จ่ายในการดูแล ในการบริหารงานในแต่ละเดือนโดยใช้งบประมาณทั้งหมด โดยไม่มีรายได้หรือการสนับสนุนจากหน่วยงานหรือรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น
2. การตระหนักถึงความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น จากหน่วยงานของท้องถิ่นและชุมชนเห็นความสำคัญน้อยมาก
3. การสนับสนุนจากส่วนราชการ หรือการเข้ามาช่วยเหลือน้อยมาก
4. ขาดทักษะและความรู้ในการจัดการพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนนิทรรศการแสดงโบราณวัตถุ
Ban Tham Indigenous Cultural Centre (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ) It has a large collection of native agricultural tools and implements as well as ancient objects from which the cultural lifestyle of the Lanna people in the past can be studied.
Ban Tham Indigenous Cultural Centre (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ) It has a large collection of native agricultural tools and implements as well as ancient objects from which the cultural lifestyle of the Lanna people in the past can be studied
Amphoe Dok Khamtai
Ban Tham Indigenous Cultural Centre (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ) is about 15 kilometres from the district town of Dok Khamtai on the way to Chiang Muan district. It has a large collection of native agricultural tools and implements as well as ancient objects from which the cultural lifestyle of the Lanna people in the past can be studied. One kilometre before the Centre is a park shaded by large trees with caves of hanging and protruding rock deposits.
ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านถ้ำ ทางหลวงหมายเลข 1251หลักกิโลเมตรที่ 14 ถนนดอกคำใต้ – เชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
ประวัติความเป็นมา
ในปี 2524 นายอุทัย ไชยวุฒิ ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูโรงเรียนบ้านปินเหนือ อำเภอดอกคำใต้ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวยังเป็นชุมชนชนบทแต่เป็นช่วงเวลาที่มีการนำเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในการทำการเกษตรโดยในนามควายเหล็ก หรือรถไถชนิดเดินตาม เริ่มเข้ามาทดแทนเครื่องใช้ทางการเกษตรที่มีมาแต่เดิมเช่นแอก ไถไม้ เผือและอุปกรณ์เครื่องใช้พื้นบ้าน จึงมีการนำมาแลกเครื่องใช้ที่ผลิตจากเทคโนโลยี่สมัยใหม่ โดยมีการนำเครื่องใช้พื้นบ้านไปแปรรูปเป็นของตกแต่ง ปัญหาของชุมชนในการทำการเกษตรได้ผลไม่คุ้มค่า ผลผลิตตกต่ำ ปัญหาที่ตามมาไม่ว่าเรื่องตกเขียว การขายบริการของเด็กผู้หญิง ค่านิยมการส่งลูกไปทำงานต่างถิ่นเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ได้กระตุ้นให้เกิดสำนึกว่าการเป็นครูควรทำอะไรให้มากกว่าที่สอนแต่นักเรียนเพียงอย่างเดียว จึงมีการเริ่มจากการเก็บรวบรวมสะสมเครื่องใช้พื้นบ้าน และริเริ่มก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขึ้น โดยร่วมมือกับกลุ่มเพื่อนครูพัฒนา ใน4 ตำบลได้จัดทำโครงการช่วยเหลือนักเรียนและปลูกฝังให้กับเด็กและเยาวชนในนาม “เด็กรักถิ่น” ร่วมกับ NGO ต่อมาเห็นว่าอาจารย์อุทัย ไชยวุฒิสมาชิกกลุ่มได้เก็บรวบรวมโบราณวัตถุอยู่แล้ว จึงมีการสนับสนุนในการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำขึ้น ซึ่งก่อตั้งและรวบรวมเอกสาร โบราณวัตถุ เครื่องใช้พื้นบ้าน เป็นศูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน มีเนื้อที่ทั้งหมด 9 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นอาคารใช้แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่พื้นบ้าน และพิพิธภัณฑ์ที่แสดงการก่อตั้งชุมชน เครื่องใช้ โบราณวัตถุที่พบในอำเภอดอกคำใต้ ตั้งแต่ยุคหินถึงปัจจุบัน ซึ่งใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนในเขตพื้นที่ 4 ตำบล มีตำบลบ้านปิน ตำบลหนองหล่ม ตำบลคือเวียง และตำบลบ้านถ้ำ
แรงบันดาลใจ
การเปลี่ยนแปลงทางสังคม จากชุมชนชนบทที่ช่วยเหลือพึ่งพิงตัวเอง สังคมที่เอื้ออาทรมาสู่สังคมที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีที่มีการนำวิถีชีวิตแบบสังคมเมือง ในปี 2524 เป็นปีแห่งการนำเทคโนโลยีมาใช้แทนเครื่องมือการเกษตรที่ผลิตขึ้นมาเอง ค่านิยมแบบสมัยใหม่มาปลุกกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในช่วงเวลานั้น ในปี 2535 ครูในท้องถิ่นจึงมีการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือและพยุงชุมชนให้มีการปรับตัวเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ให้เกิดปัญหาให้น้อยที่สุด จึงได้มีการกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้กลับมาศึกษาเอกลักษณ์ของชุมชน เช่น ฟ้อนเล็บ ฟ้อนสาวไหม ซอจ้อย และได้เรียนรู้ประวัติของชุมชนจึงได้มีการตั้ง ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ โดยการลงทุนของอาจารย์อุทัย ไชยวุฒิในพื้นที่นาในปี 2535และได้จัดกิจกรรมให้กับเด็กเยาวชนและชุมชนใน 4 ตำบล ของอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
กิจกรรมศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ
ได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ให้กับกลุ่มและองค์กรต่างๆที่เข้ามาเยี่ยมชม จัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออก เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมให้กับนักเรียน 4 ตำบล คือตำบลบ้านปิน ตำบลหนองหล่ม ตำบลคือเวียงและตำบลบ้านถ้ำ ในอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
เป็นสถานที่ตั้งศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ในปี 2547 และมีพิธีเปิดเมื่อ วันที่ 4 มิถุนายน 2547
หน่วยงานที่สนับสนุน
- ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
- เทศบาลตำบลบ้านถ้ำ สนับสนุนงบประมาณปี 2547 จำนวน 40,000 บาท ในการจัดนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ดอกคำใต้และพิธีเปิดศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านถ้ำ จำนวน 40,000 บาท
ปัญหาและอุปสรรค
ในการดำเนินงานของศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ เป็นการบริหารงานด้วยงบประมาณของอาจารย์อุทัย ไชยวุฒิ ด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น โดยไม่เรียกเก็บค่าเข้าชมหรือค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น จึงมีผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือการจัดการบริหารของศูนย์วัฒนธรรมดังต่อไปนี้
1. ค่าใช้จ่ายในการดูแล ในการบริหารงานในแต่ละเดือนโดยใช้งบประมาณทั้งหมด โดยไม่มีรายได้หรือการสนับสนุนจากหน่วยงานหรือรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น
2. การตระหนักถึงความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น จากหน่วยงานของท้องถิ่นและชุมชนเห็นความสำคัญน้อยมาก
3. การสนับสนุนจากส่วนราชการ หรือการเข้ามาช่วยเหลือน้อยมาก
4. ขาดทักษะและความรู้ในการจัดการพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนนิทรรศการแสดงโบราณวัตถุ
Ban Tham Indigenous Cultural Centre (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ) It has a large collection of native agricultural tools and implements as well as ancient objects from which the cultural lifestyle of the Lanna people in the past can be studied.
Ban Tham Indigenous Cultural Centre (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ) It has a large collection of native agricultural tools and implements as well as ancient objects from which the cultural lifestyle of the Lanna people in the past can be studied
Amphoe Dok Khamtai
Ban Tham Indigenous Cultural Centre (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านบ้านถ้ำ) is about 15 kilometres from the district town of Dok Khamtai on the way to Chiang Muan district. It has a large collection of native agricultural tools and implements as well as ancient objects from which the cultural lifestyle of the Lanna people in the past can be studied. One kilometre before the Centre is a park shaded by large trees with caves of hanging and protruding rock deposits.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น